ผู้ว่ากระบี่ ร่วมประชุมทางไกลผ่านระบบ Video conference การเตรียมการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง
องคมนตรีทรงอัญเชิญพระราชกรแสความห่วงใยสมเด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาล ทีี 10
วันนี้ (20 ส.ค.62) ที่ห้องประชุมปลายพระยา (ชั้น 2) ศาลากลางจังหวัดกระบี่ พันตำรวจโทหม่อมหลวงกิติบดี ประวิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พร้อมด้วย ท้องถิ่นจังหวัด นายอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการ ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จังหวัดกระบี่ เข้าร่วมการประชุมทางไกลผ่านระบบ Video conference การเตรียมการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง โดยมีพลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมฯ จากห้องประชุม1 อาคาร 3 ชั้น 5 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและมี นายพลากร สุวรรณรัฐ คณะองคมนตรีและคณะ ร่วมรับฟังการประชุมการเตรียมการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ด้วย
สำหรับมาตราการภัยแล้งกระทรวงมหาดไทย ได้เน้นย้ำการดำเนินการตามข้อสั่งการ บกปภ.ช. ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้งและได้สั่งการให้ทุกจังหวัดดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้งและฝนทิ้งช่วงในระยะเร่งด่วน โดยให้ประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามสภาวะอากาศและการบริหารจัดการน้ำอย่างใกล้ชิด เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนถึงสถานการณ์น้ำ รณรงค์ใช้น้ำอย่างประหยัด พร้อมทั้งสำรวจและจำแนกพื้นที่เสี่ยงภัยให้ชัดเจน ตรวจสอบแหล่น้ำดิบต้นทุน ให้ ผู้ว่าราชการจังหวัดบริหารจัดการเครื่องจักรกลสาธารณภัยเพื่อเพิ่มปริมาณน้ำดิบในการผลิตน้ำประปาให้เพียงพอและแจกจ่ายน้ำอุปโภคบริโภคเมื่อพบพื้นที่ประสบความเสียหาย ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ใช้เงินทดรองราชการตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ กรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2562 หากพื้นที่ใด มีข้อจำกัดวงเงินทดรองราชการไม่เพียงพอ ให้รายงานมายัง ปภ.เพื่อดำเนินการ นอกจากนี้ให้จังหวัดรายงานสถานการณ์และผลการปฏิบัติอย่างต่อเนื่องในการให้ความช่วยเหลือประชาชนและผลการปฏิบัติในการให้ความช่วยเหลือเพื่อให้ประมวลและวางแผนของรัฐบาลเชิงนโยบายต่อไป
ทั้งนี้องคมนตรีได้อัญเชิญพระราชกระแสความห่วงใยของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 3 ประการดังนี้ ข้อ 1 ให้ติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่องหากเกิดภัย ข้อ 2 ให้คิดปรับแนวทางและแผนในการเผชิญเหตุทั้งในภาพรวมและเฉพาะเหตุที่อาจจะเกิดขึ้น ข้อ 3. ให้รวบรวมความเสียหาย ประมาณการต่อยอดสิ่งใหม่ที่ยังไม่ได้ทำ และอย่าให้ประชาชนของพสกนิกรของท่าน อดอยาก ดังจะเห็นได้จาก การตั้งโรงครัวพระราชทาน เป็นต้น
ทางด้านผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ในฐานะประธานป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ได้กล่าว เน้นย้ำให้ทุกภาคส่วนให้ความสำคัญต่อสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นสำคัญ ฝากทางอำเภอให้ไปดูแลแผนและปรับปรุงแผนการเตาียมความพร้อม ให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงเตรียมพร้อมและทราบบทบาทหน้าที่ของตนเอง เช่น มิสเตอร์เตือนภัย ในกรณีเกิดเหตุการณ์ และภัยทุกรูปแบบ ตรวจอุปกรณ์ให้ใช้การได้อยู่เสมอ ติดตาม เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ ปัญหาการใช้น้ำของภาคส่วนต่างๆ น้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคและน้ำเพื่อการเกษตร การเตรียมความพร้อมกำลังคน วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องจักรกลสาธารณภัยให้มีความพร้อมใช้งาน ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้มีความพร้อมในการลงตรวจสอบพื้นที่เสี่ยงภัย แล้งและการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้แก่ทุกภาคส่วน รับทราบ เข้าใจแนวทางการการบริหารจัดการความเสี่ยงด้าน ตลอดจนเชิญชวนจิตอาสา ให้เข้ามามีส่วนร่วมทุกกิจกรรมให้มากขึ้น ตามความชำนาญเฉพาะด้าน เช่น จิตอาสาภัยพพิบัติ โดยนำจิตอาสามาเป็นกลไกหรือฟันเฟือง สำคัญ ในการช่วยลดเหตุ ภัยต่าง ๆได้ กิจกรรมสาธารณะประโยชน์ และเน้นการมีส่วนร่วมอย่างเต่อเนื่อง เช่น กิจกรรมการรณรงค์ทางท้องถนน ภัยจากดินโคลนถล่ม และภัยพิบัติทุกรูบแบบ ทั้งนี้เพื่อสร้างความเข้าใจในบทบาทและตรียมความพร้อมซักซ้อมความเข้าใจ แก้ไขได้สถานการณ์หากเกิดภัยทุกรูปแบบได้อย่างทันท่วงที
...

ดีเจ
กระบี่
www.yodkrabiradio.com
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น