"สทช.10 ลาดตระเวนเข้มหมู่เกาะศรีบอยา! ปูพรมคุ้มครอง 'พะยูน-หญ้าทะเล' พร้อมเตือนโทษหนักค้าซากสัตว์ป่าสงวน"

"สทช.10 ลาดตระเวนเข้มหมู่เกาะศรีบอยา! ปูพรมคุ้มครอง 'พะยูน-หญ้าทะเล' พร้อมเตือนโทษหนักค้าซากสัตว์ป่าสงวน"

---

สทช.10 บุกหมู่เกาะศรีบอยา จ.กระบี่ ลาดตระเวนเข้ม! คุ้มครอง "พะยูน" และแหล่งหญ้าทะเล พร้อมเร่งสร้างความเข้าใจชุมชน เน้นบังคับใช้กฎหมาย เตือนโทษหนักจำคุก 3-15 ปี ปรับสูงสุด 1.5 ล้านบาท หากค้าผลิตภัณฑ์จากซากสัตว์ป่าสงวน

(11 ตุลาคม 2568) - สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 10 (สทช.10) โดยส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลจังหวัดภูเก็ต ได้ปฏิบัติภารกิจเชิงรุกในการป้องกันและปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรทางทะเล พร้อมติดตามสถานการณ์ "พะยูน" สัตว์ทะเลหายาก บริเวณพื้นที่หมู่เกาะศรีบอยา ตำบลเกาะศรีบอยา อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ และพื้นที่ใกล้เคียง

การปฏิบัติงานครั้งนี้ได้ระดมเรือทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง 805 (ปะการัง) และเรือทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง 107 พร้อมเจ้าหน้าที่ ออกลาดตระเวน ดูแล เฝ้าระวัง เพื่อป้องกันกิจกรรมใด ๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อพะยูนและแหล่งหญ้าทะเลอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้ลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์มาตรการอนุรักษ์พะยูนและแหล่งหญ้าทะเล เพื่อเสริมสร้างการรับรู้และความเข้าใจแก่ชุมชน ให้ตระหนักถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ทรัพยากรเหล่านี้อย่างยั่งยืน

"โทษหนัก" ค้าซากสัตว์ป่าสงวน!

สทช.10 ได้เน้นย้ำถึงมาตรการด้านการบังคับใช้กฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีผู้ใดค้าผลิตภัณฑ์จากซากสัตว์ป่าสงวน ซึ่งมีกำหนดโทษรุนแรง คือ จำคุกตั้งแต่ 3 ปี ไม่เกิน 15 ปี หรือปรับตั้งแต่ 300,000 บาท ถึง 1,500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

พร้อมกันนี้ ได้ขอความร่วมมือจากชุมชนในพื้นที่ที่ประกอบอาชีพประมง ให้ดูแล เฝ้าระวัง และตรวจเช็คเครื่องมือประมงอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันการเกิดอันตรายกับพะยูน และส่งเสริมให้ชุมชนชายฝั่งเข้าร่วมเป็น "อาสาสมัครพิทักษ์ทะเล (อสทล.)" เพื่อคอยสอดส่องและแจ้งเหตุผิดปกติแก่เจ้าหน้าที่โดยเร็ว

แจ้งด่วน 1362 หากพบพะยูนบาดเจ็บ/เสียชีวิต

สทช.10 ขอความร่วมมือจากประชาชน หากพบเห็นพะยูนบาดเจ็บหรือเสียชีวิต สามารถแจ้งข่าวสารให้กับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง หรือโทรแจ้งสายด่วน 1362 เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถประสานงานเข้าช่วยเหลือได้ทันท่วงที โดย สทช.10 ยืนยันว่า ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่เข้าดูแล ประชาสัมพันธ์ และเฝ้าระวังในพื้นที่อย่างเข้มงวดทุกวันต่อไป